ผมเพิ่งเริ่มใช้กล้อง DSLR ครับ โดยผมใช้ canon 60d ผมยังไม่เข้าใจเรื่อง mode AV และ TV ว่าเมื่อใดควรจะเลือกใช้ Mode ใด และภาพที่ได้จะแตกต่างจาก Mode P ยังงัยครับ
ขอบคุณมากครับ
หรือถ้ามีข้อมูลต่างๆที่มือใหม่ต้องรู้รบกวนด้วยนะครับ
อ่าน 881 : ตอบ 5
ถ้าต้องการควบคุมเรื่อง ชัดลึก ชัดตื้น ใช้AV
ถ้าต้องการควบคุมเรื่อง สปีดช้า สปีดเร็ว ใช้TV
เอฟเฟค TV ถ้าสปีดสูงจะจับภาพเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง
และถ้าสปีดต่ำ จะทำให้ซับเจ็คชัด แต่ฉากหลังเบลอครับ
ส่วนโหมดP บางทีมันจะปรับไปที่กลางๆครับ เช่นสปีดมักไปอยู่ตรงที่ 1/60 พอเราหมุนแป้นปรับเปลี่ยนความเร็ว เอฟ(หน้ากล้อง)มันจะปรับให้โดยอัตโนมัติ แต่จะปรับไปได้ไม่มากเหมือนกับสองโหมดข้างต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจดูค่าแสงด้วยว่าพอหรือไม่ ถ้าเป็นกลางแจ้งแสงดีๆ ก็ปรับได้มากครับ
แต่ถ้าเป็นกลางคืน หรือที่ๆมีแสงสว่างน้อย ก็ปรับค่าไม่ได้มากครับ
ปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวันนะ ผมจะใช้ Av เพราะใช้งานเลนส์ fกว้างๆ เยอะ ต้องการควบคุมความชัดติ้น ลึก อยู่เรื่อยๆ iso ปล่อย auto ไป limit ไว้ซัก 6400
จะเปลี่ยนมาใช้โหมด M เมื่อแสงน้อยมาก สปีดตกรุนแรง
ไม่สามารถไว้ใจการคำณวนของกล้องได้ หรือเจอสถาพแสงที่สว่างมืดตัดกันมากๆ ก็จะหมุนมา M บางครั้ง
ส่วน Tv จะใช้เมื่อต้องการจับ action ต่างๆ ซึ่งผมไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรแนวนี้เยอะนัก บางทีก็ไปใช้ M เลย จะได้คุมความชัดตื้น ลึก ได้ด้วย
AV ต้องดูบน TV จอหย่ายย
สวัสดีครับ . หากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ โหมด AV ถูกออกแบบมาเมื่อผู้ถ่ายภาพต้องการปรับหน้ากล้องด้วยตนเอง และเพื่อต้องการควบคุมช่วงความชัด (ชัดตื้น หรือชัดลึก) เมื่อเราเลือกหน้ากล้องเป็นที่ต้องการของเราแล้ว ขณะเราเลือกหน้ากล้อง กล้องจะทำการเลือกความเร็วชัตเตอร์ให้เอง ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพ normal ส่วน TV ถูกออกแบบมาเมื่อผู้ถ่ายภาพต้องการปรับความเร็วชัตเตอร์เอง และเพื่อควบคุมลักษณะการเคลื่อนไหวของวัตถุที่เราต้องการถ่ายภาพในภาพ เมื่อเราเลือกความเร็วชัตเตอร์ตามต้องการแล้ว กล้องจะทำการเลือกหน้ากล้องให้เราเองโดยอัตโนมัติ ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพ normal เช่นกัน . ส่วนโหมด P ใช้เมื่อเราไม่ต้องการปรับทั้งค่าหน้ากล้อง และความเร็วชัตเตอร์ โดยให้กล้องปรับให้เราเองทั้งหมด ภาพที่ได้ก็จะออกมา normal เช่นกัน ทีนี้ก็ขึ้นกับเราแล้วล่ะว่าต้องการภาพ และการปรับในลักษณะเช่นใด .
ขอบคุณมากครับ